

รีวิว ฉีดไขมัน กับผลลัพธ์ที่ได้มา!!




อ่ะ ให้ดูหน้าก่อน บางคนอาจจะบอกว่า ก็หน้าดีอยู่แล้วน้า ปกติดีนี่ ไปทำทำไม?
หน้าแห้งขนาดนี้ ไม่ทำไหวหรอ 555555 คือในรูปที่เราลงเราก็แต่งรูปไง TT ไฮไลท์ เฉดดิ้งอะไรก็ปัดสุดไรสุด เพื่อสร้างส่วนเว้าส่วนโค้งให้กับใบหน้า!
แต่ความจริงแล้วมันก็แก้ปัญหาได้ไม่หมด เพราะเราถ่ายรูปด้านข้างไม่ได้เลยยยยยย หน้าแบนมากกก ไม่สวยมากกกกก !! นี่เลยเป็นปม คืออยากมีภาพเผลอสวยๆบ้าง แต่พอโดนถ่ายด้านข้างมาคือพังเว่อ ! ก็เลยต้องไปฉีดจริงๆ ละ แถมคลินิกที่ส้มตัดสินใจไปทำ เค้ามีโปรพอดี
( ราคาแค่ 39,990 แต่อันนี้เป็นราคารีวิวนะ คือให้ให้เค้าเอารูปลงเพจได้ ใครไปก็ได้ราคานี้เด้อ เพราะนี่ก็เสียตังเหมือนกัน 555)
ภาพก่อนทำวันที่นัด ถ่ายที่คลินิกเลย อันนี้แต่งหน้าแล้ว พอดูได้บ้าง 555
จะเห็นได้ว่านอกจากหน้าแบนแล้ว ปัญหาของเราคือ
- หน้าผากแบน
- ใต้ตาลึก
- ร่องแก้ม
- ริมฝีปากบางไม่ได้รูป
ซึ่งปัญหาทั้งหมดเหล่านี้ สามารถแก้ได้ด้วยการเติมไขมันครั้งเดียวเลย เออ เลิศมั้ยล่ะ
โดยดูหน้าตรงแล้วจะเห็นว่าไม่ได้มีปัญหาเท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละ ทำให้เราถ่ายรูปได้แต่มุมตรงตลอด อยากมีมุมหันข้างบ้างอ่ะะะะะะ TT



ก่อนที่จะไปฉีด เราก็จะต้องเข้าไปพบหมอก่อน เพื่อให้คุณหมอดูว่า เราควรฉีดตรงไหนยังไง มีความกังวลตรงไหน มีความต้องการอะไรบ้าง (หมอใจดีเว่อ หน้าดีด้วย เอ๋าาาาา 5555555)
จากนั้นพอตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องคลีนหน้า - เปลี่ยนชุด - และทานยาค่ะ ยามียาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ และยาอะไรไม่รู้ จำไม่ได้ 5555
อธิบายถึงวิธีการของเค้าก่อน
อันดับแรกคือ เค้าจะต้องดูดไขมันของเราก่อน ซึ่งไขมันที่จะมาฉีดได้เนี่ย *ต้องเป็นไขมันของตัวเองเท่านั้นนะคะ!* ดังนั้นเนี่ย ใครผอมๆ แห้งๆ นี่หมดสิทธิ์นะ นี่ล่ะ สาเหตุที่เรากินไก่ทอดและพิซซ่าทุกวัน ประโยชน์มันคือตรงนี้นี่เอง 555555
และไขมันที่จะเลือกนำมาฉีดได้ คือบริเวณ*ต้นขา* และ*หน้าท้อง* เท่านั้นค่ะ เพราะเป็นไขมันที่คุณภาพดีที่สุด
สามารถเกาะติดอยู่ได้เยอะที่สุด
เพราะตามปกติแล้ว ไขมันที่ฉีดไป จะสลายไปได้ 20-30% แล้วแต่คน ส่วนที่ติดแล้ว ก็จะอยู่ได้ 3-5 ปีเลยค่ะ
จริงๆแล้วจะเรียกว่าอยู่ถาวรก็ได้ แต่เพราะร่างกายคนเรา ไขมันก็สลายไปเรื่อยๆ ตามอายุอยู่แล้ว ดังนั้นหากฉีดเติมไขมันแล้วไขมันหายไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไรค่ะ สามารถมาฉีดเติมใหม่ได้ตามความต้องการเนอะ
ไขมันที่ส้มเลือกมาฉีดวันนี้เป็นต้นขาค่ะ ขอบอกความประทับใจนิดนึง คือแผลตรงที่ดูดไขมันเนี่ย จริงๆมันไม่ใหญ่เลยนะ เล็กนิดเดียว แต่เวลามันช้ำนี่แบบ ใหญ่มากกกก 555555
คุณหมอเลยถามว่า ปกติชอบใส่ประโปรง/กางเกงขาสั้นรึเปล่า (วันนั้นใส่กระโปรงสั้นไปพอดี) เราก็บอกว่าใช่ ตอนนั้นก็งงๆว่าถามทำไม คุณหมอเลยบอกว่า ถ้ายังงั้นจะดูดไขมันให้สูงๆหน่อยนะ เวลาใส่กางเกงขาสั้นจะได้ไม่เห็น งื้อออ >< น่ารักมั้ยล่ะ 55555



และ นี่คือ~~~หลอดไขมันของข้าเองงงงง 555
หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยหลายอย่างแบบส้ม 555 เช่น
1. ดูดไขมันต้นขาไป อย่างนี้ ขาเล็กลงมั้ย?
ตอบ : ไม่เล็กลงค่า 555 เพราะไขมันที่ดูดไปเป็นปริมาณพอดีกับฉีดบนใบหน้า แต่ไม่เยอะขนาดทำให้ขาดูเล็กลงนะจ้ะ!
2.ไขมันนี่ ดูดออกปุ๊บ ฉีดปั๊บเลยหรอ?
ตอบ : ไม่ใช่นะ! ยอมรับว่าตอนแรกก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน 555 จนได้มาเห็นของจริงคือไขมันที่ดูดมา มันจะมี 3 ชั้น คือชั้นที่เป็นเลือด และสเต็มเซลล์ / ชั้นไขมัน / ชั้นน้ำมัน ซึ่งชั้นที่จะเอามาใช้ได้คือชั้นไขมันเท่านั้น ดังนั้นเมื่อดูดเสร็จแล้วก็ต้องเอาไปเข้าเครื่องปั่นสมูธตี้ เอ้ย! ไม่ใช่! เครื่องปั่นเฉพาะ ที่เอาไว้แยกชั้นไขมันก่อนนั่นเอง
เป็นเครื่องแบบนี้ หมุนติ้วๆๆๆ~
อีกคำถามที่หลายคนต้องอยากรู้ ตอนดูดไขมัน เจ็บมั้ย ?
ตอบ : ไม่เจ็บตอนดูดค่ะ เจ็บตอนฉีดยาชา แต่แค่แปบเดียว เข็มแรก เท่านั้นแต่นอกนั้นอาจจะรู้สึก จึ้กๆบ้าง เวลาที่เข็มแทงเข้าไปดูด แต่สำหรับเราคือชิลมาก อยากขอร้องคุณหมอให้ดูดออกไปเยอะๆ ดูดออกไปทิ้งก็ได้ค่ะ ไม่ได้ใช้ 555555
ทำไมไม่มีบริจาคไขมันแบบบริจาคเลือดบ้างนะ *ทำหน้าสงสัย*
เครื่องปั่นไขมันของเรา ไขมัน แฟรปปูชิโน่มาแล้วจ้าาาาาา



จากนั้น มาถึงขั้นตอนสำคัญกันแล้วค่า คุณหมอก็จะมามาร์คจุดที่จะฉีดไว้ก่อน อย่างในภาพคือ บริเวณหน้าผาก ใต้ตา และร่องแก้มและคุณหมอฉีดริมฝีปากบนเป็นกระจับให้ด้วยล่ะ ><
ก่อนจะฉีดก็จะมีการฉีดยาชาเหมือนกันค่ะเจ็บตอนยาชาเข็มแรกเหมือนกัน จากนั้นก็ชิลไปเลย ไม่รู้สึกอะไร เหมือนใส่หน้ากาก 555จะมีเจ็บๆ บริเวณใต้ตาเล็กน้อยค่ะ เพราะว่าตรงนั้นจะมีผังผืดอยู่เยอะ เลยมีความรู้สึกมากหน่อย
จากรูปนี้ อยากให้เพื่อนๆสังเกตบริเวณ *หน้าผาก*และ*ใต้ตา*ให้ดีๆ นะ
ตู้ม~~~ ฉีดเสร็จแล้วว !
เห็นมั้ย เห็นมั้ยยยยยยยยยยย หน้าผากนูนสวยสมใจแล้ววว อ๊ากกกกกก !! หลังจากที่ไม่สามารถรวบผมม้า ทำผมรวบสูงแล้วสวยๆได้เลย ลูกมีวันนี้แล้วค่ะแม่ กรี๊ดมากกกกกก ><
แถมใต้ตาก็ดูตื้นขึ้นมาทันทีแบบเสกได้จ้าาาาา <3